นับแต่มีข่าวเปิดตัวเมื่อเดือนที่แล้วทาง HP ได้พูดถึงเน็ตบุ๊ก Mini 1101 ที่จะมีการ์ด Broadcom Crystal HD ที่ทำให้เครื่องที่ใช้ซีพียู Atom ก็เล่นหนังระดับ Full HD (1920x1080) ได้ แต่จนวันนี้เครื่องรุ่นดังกล่าวก็ยังไม่มีขาย จนวันนี้ความชัดเจนก็มากขึ้นเมื่อการ์ดดังกล่าวไปปรากฏตัวเป็นออปชั่นให้กับเครื่อง Mini 110
ออปชั่นนี้ราคา 30 ดอลลาร์ แต่จะมีให้เฉพาะเครื่องรุ่น Windows XP เท่านั้น โดยออปชั่นที่เพิ่มมานั้นรวมถึงจอภาพแบบแบบ 1366x768 ที่ราคา 30 ดอลลาร์อีกด้วย แต่จะไม่สามารถเลือกเพิ่มแรมเป็น 2GB ได้เนื่องจากติดข้อจำกัดของตัว Windows
ไม่มีออปชั่นการ์ด HD และจอความละเอียดสูงสำหรับ Mini 110 รุ่นลินุกซ์
Text Link Ads เป็นอีกระบบที่ John Chow ใช้ และทำให้ John Chow สร้างรายได้จากการขายและยังเป็นประโยชน์ในด้านการเพิ่มจำนวนผู้เข้าเว็บและ ด้าน Search Engine ด้วย รวมทั้งระบบยังไม่เป็นการรบกวนจิตใจผู้เข้ามาดูเว็บ ราคาของ Link ขึ้นกับ Text Link Ad, Alexa, Google Pagerank, จำนวน RSS Feed และ ปัจจัยอื่นๆ
ระบบนี้เป็นระบบที่สำคัญ โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการสร้างรายได้จาก Blog มีทั้ง Simple Text และ Image Ads โดย Google จะเป็นผู้เลือกโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับเว็บของเรา มาให้
Sign Up for Google AdSense
Bidvertiser
Bidvertiser เป็น CPC ad network ( CPC = Cost Per Click, จ่าย ทุกๆครั้งที่มีการคลิก) ที่เป็นคู่แข่ง Google AdSense และมีข้อเหนือกว่า Google AdSense ที่ Minimum Payout Level คือ $10 (Google AdSense $100) เหมาะสำหรับ Blog เล็กและมีรายได้น้อย
Review Me เป็นแหล่งสร้างรายได้ที่ใหญ่ที่สุด ที่ John Chow ได้รับ ในเดือนเมษายน John Chow มีรายได้จาก Review Me $4,500 จากจำนวนทั้งสิ้น $11,702.66 Review Me อนุญาตให้ผู้โฆษณาซื้อ sponsored reviews มาใส่ใน Blog ราคาขึ้นกับ Alexa, Technorati และจำนวน RSS Feed แต่จำนวนตัวอักษรใน post ต้องไม่น้อยกว่า 200 คำ
ถ้าคุณยังไม่รู้ว่าจะเขียนเรื่องอะไร ยังไม่ต้องกังวล วิธีที่ดีที่สุด ก็ ถามตัวเองว่า “Would I do this for free?” และถ้าคุณตอบ Yes คุณจะพบเรื่องที่คุณควรจะเขียน ผู้ที่ตั้งใจสร้าง Blog เพื่อเงินนั้นมีน้อยรายที่ประสบความสำเร็จ เพราะเขาได้ตั้งกำแพงของเจตนาขึ้น จนทำให้มุมมองตีบตัน (ผู้แปล)
2. Get Your Own Domain Name
Blog ที่ให้บริการฟรีแก่สมาชิก เช่น Blogger.com และ Wordpress,com นั้น จะมี ลักษณะ http://your**word.blogspot.com หากต้องการเป็น Domain Name ของเรา ต้องเสียค่าบริการ
สิ่งต่อไป ที่คุณต้องทำ คือ การสร้าง Blog การสร้าง Backlinks (มากๆ) การ Submit กับ Blog Directories เช่น Alexa และ Technorati
3. Update The Blog Often
Blog ที่ไม่มีการ Update ก็เหมือนกับ Blog ตาย เราจึงควร Update อย่างสม่ำเสมอ
4. Get to Know Your Readers
Blog เป็นการสื่อสาร 2 ทาง Blog ของคุณจะไม่มีประโยชน์เลย ถ้าไม่มีคนเข้ามาดูหรือไม่มี comments นอกจากนั้น Blog ยังสร้างความสัมพันธ์ระหว่างคุณ ผู้อ่านและ Blogs อื่นๆ ที่คุณ Link ไปหาหรือ Link เข้ามา
5. Monetize the Blog With Multiple Sources
คุณต้องสร้างรายได้จากหลายๆทาง อย่าจำกัดเฉพาะ Google AdSense เพราะยังมีอีกหลายๆAdS Network ที่คุณสามารถนำมาสร้างรายได้ John Chow มีรายได้จาก Google AdSense เพียง 10%
อย่า สร้าง Blog เพื่อการส่วนตัว ถึงแม้ว่า Blog ไม่ใช่ CNN หรือ ข่าว ผู้อ่านนั้นต้องการรับทราบความคิดเห็นและสิ่งต่างๆที่คุณเสนอ คุณต้องสร้าง Blog เพื่อสนองความต้องการผู้เข้ามาอ่าน
John Chow เขียน Blog เรื่องเกี่ยวกับการสร้างรายได้ทางอินเตอร์เน็ต เหมือนคนอื่นๆ แต่แตกต่างจากผู้อื่น ทำให้ Blog ของเขาสร้างรายได้มากมาย
6. Not Replying to Comments
Blog เป็นการสื่อสาร 2 ทาง การไม่ตอบ comment ทำให้คุณสูญเสียผู้เข้ามาอ่าน เพราะคนอ่านก็ต้องการ คำตอบ การโพสโต้ตอบ ทำให้จำนวนผู้เข้าชม Blog มากขึ้น แต่ถ้าไม่มี Comment นี่สิ คุณต้องพยายามใส่ข้อความ (Two Plugins to Increase Blog Comment)
7. Not Giving a Full RSS
ถ้าคุณไม่ได้โพสมากกว่าวันละ 10 ครั้ง ก็ไม่มีเหตุผลที่จะไม่ใช้ Full RSS
John Chow พบว่า ตั้งแต่ เขาเริ่มใช้ Full RSS และได้เพิ่ม RSS Subscribers มาเรื่อยๆ ช่วยทำให้ Blog ของเขามีคนเข้ามาดูมากขึ้น ถึงแม้ว่า การบริหาร Full RSS ใน Blog จะยากสำหรับ Blogger แต่ผู้เข้ามาอ่าน ก็ต้องการที่จะอ่านข้อมูลแบบครบถ้วนมากกว่าขาดๆหายๆ
8. Not Reaching Out to The Other Bloggers
วิธีที่ดี ที่สุด ที่ Blog ของคุณจะได้รับ Comment คุณควรเข้าไปทักทายใน Blog อื่นๆ ที่มีเนื้อหาคล้ายกัน และทิ้ง Trackbacks ไว้
John Chow จะทำการตรวจสอบ Comment ของเขาอย่างสม่ำเสมอ และจะไปเยี่ยมชม Blog ของคนอื่นๆ ทำให้เขาได้พบ Blog ที่ดีๆ ที่เขานำมาสร้างหรือพัฒนา Blog ของเขา
วิธีอื่น ได้แก่ การแลก Link กับ Site อื่นๆ โดยไม่สนใจว่า Site นั้นๆ จะมี Rank ที่ดีหรือไม่ และทิ้ง Trackbacks ไว้ รวมทั้งการเป็นสมาชิกของ Blog นั้น
9. Writing for Google instead of People
มีหลาย Blogger ที่สนใจมากเกินไปกับการสร้าง Ranking กับ Google ในเรื่อง Key Phases , Keyword Density,… ซึ่งเป็นการเขียน Blog ให้ Google อ่าน ทั้งๆที่ ความจริงแล้วนั้น ต้องการให้มีคนทั่วๆไปเข้ามาอ่าน เขาทำถูกหรือ
10. Not Reading John Chow Dot Com
(ผู้แปล ก็ คิดเช่นนั้น)
The Seven Habits of Highly Successful Bloggers
1.They Blog on a Consistent Basis
Bloggers ที่ประสบความสำเร็จ จะมีนิสัยของความสม่ำเสมอของการโพส ถ้า คุณเป็น New Blogger คุณควรจะตั้งเป้าหมายที่จะโพสอย่างสม่ำเสมอ
Bloggers ที่ประสบความสำเร็จ จะไม่ปกปิด link ของเขา เขาไม่มีปัญหาที่จะ Link กับ Site ใหม่ๆ John Chow คิดว่า ถ้า Blog นั้นเป็นเรื่องดีๆ หรือ แนวคิด นั้นๆอยู่ใน Topic ของเขา เขาจะไม่สนใจในเรื่อง Ranking เลย
ทำ ให้ Blog ๘องเขาแตกต่างจากคนอื่นๆ อะไรที่สร้างความแตกต่าง ตัวคุณและความสามารถในการโปรโมทให้แตกต่าง John Chow จึงแนะนำให้เรามี Owned Domain Name แทนที่จะใช้ระบบฟรี เช่น Blogspot
6.They Are Good Writers
คุณ ไม่จำเป็นต้องเป็น Great Writer แต่ที่คุณต้องทำ คือ การสร้างความคิดที่ดี (getting your ideas) ผู้คนส่วนใหญ่อ่าน Blog เพราะต้องการจ้อมูล เขาไม่ถือสาเรื่องไวยากรณ์มากนัก ตราบใดที่เขาเข้าในประเด็นหลัก เมื่อเขาไม่เข้าใจ เขาจะถามคุณเอง และคุณจึงจำเป็นต้องพัฒนาทักษะของคุณ
7.They Read John Chow dot Com
แน่ นอน Bloggers ที่ประสบความสำเร็จ อ่าน Blog ของ Bloggers ที่ประสบความสำเร็จคนอื่นๆ John Chow อ่าน All Big Name Bloggers เพื่อดูว่า เขากำลังพูดเกี่ยวกับอะไร
How To Handle Negative Comments In A Blog
วิธีจัดการกับ comment ที่เป็นลบ
1.Negative Comments Are a Good Thing
John Chow ให้ความสำคัญกับ Negative Comment เพราะว่า มันเป็นตัวชี้วัดการ
เติบ โตของ Blog ให้จำไว้เลยว่า เมื่อ Blog ของคุณโตขึ้น จำนวนของ Negative Comment ก็จะมากขึ้นเช่นกัน ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า Negative Comment ไม่ใช่สิ่งที่เลวร้าย จริงๆแล้ว Negative Comment เป็นสิ่งที่ดี กฎที่ควรจำ ถ้าแนวคิดของคุณไม่ได้ทำให้เกิดการโต้แย้งเลย นั้น แสดงว่า คุณต้องทำอะไรที่ไม่ถูกต้องในหลักการสำคัญของการสร้าง Blog
2.Negative Comments Encourage Discussions
ลอง นึกภาพดู จะเป็นที่น่าเบื่อหน่ายเหลือเกิน ถ้า Blog ของคุณมีแต่ Comment ที่บอกว่า “เห็นด้วย” “คุณกล่าวถูกต้องแล้ว” การมี Negative Comment ทำให้มีการถกแถลงเกิดขึ้นในหมู่ของผู้อ่าน มันก็คล้ายกับเกิดสงครามใน forum ที่หลายๆคนก็เข้ามาโต้แย้งกัน บ้างก็ว่า ไม่ควรหรือไม่ถูกต้อง เจ้าของ Blog ส่วนใหญ่ จะไม่ไปหยุดการโต้แย้งในทันที เพราะว่า การถกแถลงได้เพิ่มจำนวนผู้เข้ามาอ่าน Blog ของเขา
เหตผลหนึ่งที่ John Chow อนุญาตให้มี Negative Comment ใน Blog ของเขา ก็เพราะว่า Negative Comment จะนำพาผู้คนจาก site ที่คล้ายๆกันมาร่วมเสนอความคิดเห็น
3.People Who Say They’re Leaving Don’t
ไม่ มีใครที่จะจาก Site นั้นไป เมื่อเขาพูดว่า เขาจะไม่เข้ามาดูอีกแล้ว เขาเหล่านั้นอาจจะเข้าไม่บ่อยเหมือนที่ผ่านมา แต่ในที่สุด เขาก็จะเข้ามาอีกในโพสหลัง เพื่อถกแถลงหรือโต้แย้ง
ไม่ได้อยู่ที่ความยาว ของโพส แต่อยู่ที่ความถี่ของการโพส และที่สำคัญ ก็คือ ความสม่ำเสมอของการโพส John Chow ชอบที่จะโพส 200-1,000 คำ ขึ้นกับว่าประเด็นที่ต้องการโพส การที่เขาโพสที่ต่ำสุดไม่น้อยกว่า 200 คำ ก็เพื่อให้ Google เข้ามาเก็บข้อมูล (ถ้าน้อยกว่า 200 คำ Google จะไม่สนใจเลย
การโพสบ่อยๆ มีความสำคัญมากกว่าการโพสที่ยาวๆ การโพสทุกๆวันนั้นเป็นประโยชน์ เพราะทำให้ผู้อ่านเข้ามาดูเป็นประจำหรืออาจจะ Subscribe RSS Feed ของคุณ Google เองนั้น ชอบ Site ที่มีการ Update บ่อยๆ และจะส่ง Google Robot (Googlebot) มาเก็บข้อมูลของคุณบ่อยขึ้น
การโพสบ่อยๆ นั้น สำคัญ Blog ใหญ่ๆ จะฉวยโอกาสแย่งผู้ชม จาก Main Site ที่ไม่ Update Site เพราะอยู่ระหว่างการพักผ่อน แต่ที่สำคัญ กุญแจหลักอยู่ที่ความสม่ำเสมอของการโพส
Creating Content – Profreading
1.English is Not My First Language
ภาษาอังกฤษ ไม่ใช่ภาษาที่หนึ่งของ John Chow เขาแทบจะสอบไม่ผ่านภาษา
อังกฤษในระดับโรงเรียนด้วยซ้ำ ถ้าอาจารย์ของเขารู้ คงจะช็อก เมื่อรู้ว่า John